จำนวนของ POLE ในมอเตอร์ไฟฟ้า
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบัน “มอเตอร์ไฟฟ้า” มีความสำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมอย่างมาก หรือแม้แต่การใช้เครื่องมือหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดก็ต้องพึ่งพามอเตอร์ไฟฟ้าเช่นกัน มอเตอร์จึงคือตัวกลางเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล เพื่อทำให้เครื่องมือนั้นๆ ทำงานได้ โดยภายในจะประกอบด้วยขดลวดที่พันอยู่รอบแกนของโลหะ จะอยู่บริเวณระหว่างขั้วแม่เหล็ก ซึ่งขดลวดที่พันอยู่รอบแกนนี้จะมีชื่อเรียกว่า POLE ในมอเตอร์ไฟฟ้า
Pole of Motor คือจำนวนของ “ขั้วแม่เหล็ก” ที่อยู่ภายในมอเตอร์ โดย Pole ไม่ได้สร้างแรงโดยตรง แต่จะมีผลต่อความเร็วรอบ ( รอบต่อนาที , RPM ) และแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าโดยหลักการคือ
- จำนวน Pole มาก แรงบิด มาก ความเร็วของมอเตอร์ น้อย : เหมาะกับงานที่ต้องการแรงบิดมากๆ เช่น เครน , ลิฟต์ , เครื่องบด เป็นต้น
- จำนวน Pole น้อย แรงบิด น้อย ความเร็วมอเตอร์ มาก : เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วรอบต่ำ เช่น พัดลใเพดาน , เครื่องปั่นไฟ , ปั๊มน้ำ เป็นต้น
โดยมีสูตรในการคำนวณ คือ
ความเร็วของสนามแม่เหล็ก (NS) =
โดยที่ f = ความถี่ของเนมเพทมอเตอร์ 50 Hz หรือ 60 Hz
P = จำนวนของขั้วแม่เหล็ก 2/4/6/8/10/12/…
สำหรับการใช้งานบางคนอาจสงสัยว่าต้องใช้เป็นแบบ 2 Pole หรือ 4 Pole แบบไหนดีกว่า ควรจะเลือกใช้ตามความเหมาะสมของตัวงาน นอกจากนี้ความเร็วของมอเตอร์แต่ละตัวจะไม่เท่ากัน และจะไม่ตายตัวเหมือนสูตร เพราะการออกแบบของผู้ผลิตแต่ละแห่งจะไม่เหมือนกัน แต่หลักๆ แล้ว 2Pole ~ 3,000 rpm, 4Pole ~ 1,500 rpm และ 6Pole ~ 1,000 rpm เป็นต้น
ลักษณะ | มอเตอร์ 2 pole | มอเตอร์ 4 pole | มอเตอร์ 6 pole |
จำนวนขดลวด | 2 | 4 | 6 |
จำนวนขั้วแม่เหล็ก | 2 | 4 | 6 |
แรงบิด | ต่ำ | ปานกลาง | สูง |
ความเร็วรอบ | สูงมาก | สูง | ต่ำ |
การใช้งาน | งานที่ต้องการความเร็วรอบสูงมากๆ | งานที่ต้องการความเร็วรอบสูง | งานที่ต้องการแรงบิดสูง |